พระเจ้าช่วยเราได้จริงหรือ???



ในช่วงเวลานี้คงปฎิเสธไม่ได้ว่า.......
มีคนเป็นจำนวนไม่น้อยที่ประสพกับปัญหาชีวิต หาทางออกไม่เจอรู้สึกว่ามืดมนไปหมด
 บางท่านก็จะสงสัยว่า พระเจ้ามีจริงเหรอ?????
 ทำไมพระเจ้าถึงไม่ช่วยเราเลย
 ไหนบอกว่าจะช่วย ทำไมถึงทิ้งเรา

 ทำไมๆๆๆๆ!!!!!!
คำถามเยอะแยะเต็มไปหมด
คงจะมีคำถามมากมาย!!!!ในใจ ทั้งผู้เชื่อใหม่และผู้เชื่อเก่า
ว่า...เพราะเหตุใด??เมื่อเป็นคริสเตียนแล้วยังไม่เห็นดีขึ้นเลย?


       เป็นคำถาม ที่มักจะปรากฏ อยู่ในความคิด 
ของผู้ที่หลังจาก ได้ตัดสินใจ ต้อนรับพระเยซูคริสต์ เป็นพระผู้ช่วยให้รอด
 และเริ่มต้นดำเนินชีวิต คริสเตียน มาได้ซักระยะหนึ่ง
พอเจอปัญหา อธิษฐานแล้ว ไม่ได้รับคำตอบ 
 สิ่งนี้อาจจะมีผลต่อ การดำเนินชีวิตคริสเตียน ของเขาทั้งชีวิต

 "หลายคน เลิกติดตาม พระเยซูคริสต์ 
และมีชีวิตที่ห่างเหินไปจากทางของพระเจ้า ด้วยความอ่อนแอฝ่ายวิญญาณ
 ยอมกลับไปทำตามเนื้อหนัง แต่ไม่ยอมทำตามการทรงนำของพระเจ้า
พอเจอความทุกข์ยากในชีวิต
ก็รู้สึกว่าพระเจ้าไม่รักไม่ทรงช่วยเลย
 ทำให้การดำเนินชีวิตคริสเตียนของเขา มีปัญหา
 และยิ่งไปคุยกับผู้ที่มีความเชื่อน้อยหรือผู้ที่ไม่มีความเชื่อเลย

ทำให้เขายิ่งมายิ่งห่างจากทางของ พระเจ้า"ในที่สุดจึงทิ้งทางพระเจ้าไป!!!!



อยากบอกอย่างนี้ว่า 
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราตาม ขอให้เราย้อนกลับมานั่งนับพระพร
 ดูทีละอัน ว่ามีมากแค่ไหน 

ถามตัวเองว่า!!!! เรายอมให้พระเจ้าอยู่ในทุกสถานการณ์ในชีวิต รึเปล่า
 ทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะดีหรือร้าย
ล้วนแล้วแต่เป็นบททดสอบตัวเราทั้งนั้น
ว่าเรามีความรักมั่นคงในพระเจ้ามากน้อยเพียงใด

บางคนพระเจ้าประทานสิ่งดีๆมาให้ก็ชื่นชม!!!อยู่กับของประทานจนลืมพระเจ้า
หรือ...บางคนเจอแต่การทดลองและความย่ำแย่เขาก็ละทิ้งพระเจ้าเช่นกัน

 อยากจะบอกว่าคนเหล่านั้นว่าเขายังไม่เชื่อและวางใจในพระเจ้าสุดจิตใจ
คิดว่าตัวเองแล้วทำดีที่สุดแล้วพระคัมภีร์ก็อ่านแล้วอธิษฐานก็แล้ว

พี่น้องคะ...เวลานี้คงเป็นบททดสอบชีวิตของเราอยู่
ขอให้สู้และฝ่าฟันอุปสรรคโดยพึ่งพาพระคุณพระเจ้า
อย่าละทิ้งพระองค์



 จงมองที่พระเจ้าอย่ามองที่ปัญหา 
ให้เราแบกกางเขนและเดินติดตามพระองค์
 ยอมจำนนท์กับพระองค์ ด้วยสิ้นสุดจิตและสุดใจเรา

มองดูว่าพระเจ้ากำลังสอนอะไรเรากับปัญหาที่พระองค์ยอมให้เกิดขึ้น
 แน่นอน...เมื่อเราผ่านปัญหาต่างๆไปได้ 
พระพรของพระองค์ก็จะเกิดผลมากมายในชีวิตของเรา

 เช่นฟ้าหลังฝน
ทางที่ไปหาพระองค์นั้นแคบและลำบากมากนัก
 แต่ถ้าเราข้ามและผ่านไปได้
 เราจะแกร่งและถวายเกียรติแด่พระองค์
 พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งเราเลย
ลองคิดและไตร่ตรองดูเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา
ทำความเข้าใจให้ได้ และเราจะเข้าใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
พระเจ้ามาทันเวลาเสมอ......

           พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า 
“พระเจ้าประเสริฐทรงเป็นที่กำบังเข้มแข็งในวันยากลำบาก พระองค์ทรงรู้จักผู้ที่เข้ามาลี้ภัยอยู่ในพระองค์” และ “พระเจ้าทรงสถิตใกล้ทุกคนที่ร้องทูลพระองค์ ผู้ที่ร้องทูลพระองค์ด้วยใจจริง พระองค์ทรงโปรดตามความปรารถนาของบรรดาผู้ที่ยำเกรงพระองค์
 พระองค์ทรงฟังเสียงร้องทูลของเขาด้วย และทรงช่วยเขาให้รอด”

พระองค์ทรงรักลูกของพระองค์ทุกคน
เพียงแต่ให้เราวางใจและเชื่อในพระองค์ว่าพระองค์จะทรงจะช่วยเรา
พระองค์จะประทานทุกสิ่งที่เห็นว่าดีและเหมาะสมให้เราเสมอ
ไม่มีใครในโลกนี้จะไม่เจอปัญหา ขอให้อย่าท้อ

สุขก็ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ประทานความสุขให้กับเรา
 ทุกข์ก็ขอบคุณพระเจ้า
 เพราะพระองค์กำลังสอนเราให้รู้ว่าทุกข์นั้นเป็นอย่างไร
อย่าน้อยใจและต่อว่าพระเจ้า  อธิษฐานให้มากๆและวางใจในพระองค์
 พระเจ้าไม่เคยมาสาย

" ไม่มีการทดลองใดๆ เกิดขึ้นกับท่านนอกเหนือจากการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ทั้งหลาย 
พระเจ้าทรงสัตย์ธรรม พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะรับได้
 และเมื่อทรงทดลองท่านนั้น พระองค์จะทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ด้วย 
เพื่อท่านจะมีกำลังทนได้ "...1คร10.13


หากเหนื่อยและท้อแท้อยากหนุนใจด้วยเพลงนี้นะคะ 
ขอให้พระเจ้าเสริมกำลังทุกท่านค่ะ


เราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง 
เวลาที่เราทุกข์ยาก เวลาเราสับสนพระเจ้าอยู่เคียงข้างเราเสมอ
ความลำบากที่เราฟันฝ่าผ่านมาได้ แท้จริงแล้วพระเจ้าเป็นผู้นำพาเราให้ผ่านพ้นมา 
"รอยเท้าที่เราเห็นแท้จริงแล้ว เป็นรอยเท้าของพระเยซูที่อุ้มเราไว้" พระองค์ไม่เคยทิ้งเรา!!

มัทธิว13.18 "เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงฟังคำอุปมาว่าด้วยผู้หว่านพืชนั้น

19 เมื่อผู้ใดได้ยินคำบอกเล่าเรื่องแผ่นดินพระเจ้าแต่ไม่เข้าใจ มารร้ายก็มาฉวยเอาพืชซึ่งหว่านในใจเขานั้นไปเสีย นั่นแหละได้แก่เมล็ดพืชซึ่งหว่านตกริมหนทาง

20 และเมล็ดพืชซึ่งหว่านตกในที่ดินซึ่งมีพื้นหินนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ยินพระวจนะ แล้วก็รับทันทีด้วยความปรีดี

21 แต่ไม่ฝังลึกในตัวจึงทนอยู่ชั่วคราว และเมื่อเกิดการยากลำบาก หรือการข่มเหงต่างๆ เพราะพระวจนะนั้น เขาก็เลิกเสียในทันทีทันใด

22 และพืชซึ่งหว่านกลางหนามนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ฟังพระวจนะ แล้วความกังวลตามธรรมดาโลก และความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติรัดพระวจนะนั้นเสีย จึงไม่เกิดผล

23 ส่วนพืชซึ่งหว่านตกในดินดีนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ยินพระวจนะนั้นและเข้าใจ คนนั้นก็เกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง"

ความเชื่อจะทำให้เราก้าวข้ามผ่านทุกปัญหาได้นะคะ 
พระเจ้ารักพวกเราทุกคนและทรงเดินเคียงข้างพวกเราเสมอค่ะ






 "ไฟแห่งพระวิญญาณช่วยท่านให้พ้นจากคำสาปแช่งและโซ่ตรวนแห่งความทุกข์"
และได้รับความรอดอย่างแท้จริง 
"เชิญรับไฟพระวิญญาณ"
ได้ที่
คริสตจักรแห่งชัยชนะ เขาวง จ.กาฬสินธุ์


นมัสการทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป






ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องที่รักทุกท่านค่ะ

  ด้วยรัก
อ.อัญฐิตา บริบูรณ์กิตติคุณ

***โทร 081-157-0740**
cr.เพลงรอยเท้าบนผืนทราย watpaharuthaikhlung
หากท่านอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์ต่อผู้อื่นกรุณากดแชร์ด้วยนะคะ ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น