คริสเตียนทำบุญผ้าป่า ทอดกฐิน ได้หรือไม่??


เราเป็นคนไทย อยู่ในประเทศไทย
 จะเลี่ยงไม่ได้เลยเกี่ยวกับการถูกเชิญให้ทำบุญผ้าป่า ทอดกฐิน
 ตามประเพณีของชาวพุทธ 
ถามว่าเราเป็นคริสต์แล้ว เราจะร่วมทำบุญกับเค้าได้หรือไม่??
เราจะทำอย่างไร????
หากมีเพื่อนสนิทของเรามาชวนเราใส่ซองทำบุญผ้าป่า หรือขอให้เป็นเจ้าภาพกฐิน 
บางคนก็ปฏิเสธไปว่า ทำไม่ได้หรอกเราเป็นคริสต์แล้วเค้าห้ามทำบุญ
  คำปฏิเสธเหล่านี้
อาจจะทำให้เพื่อนเราหรือชาวพุทธทั้งหลาย
อาจเข้าใจผิดได้ว่า เข้าศาสนาคริสต์แล้วเค้าห้ามทำบุญ
 คนที่ไม่รู้ก็อาจจะต่อต้านหรือเกลียดชังคนที่นับถือคริสต์ไปเลยก็ได้
หากมีเพื่อนเรามาขอให้ทำบุญในลักษณะนี้
 เราควรอธิบายและตอบอย่างสุภาพว่า
 การทำบุญนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี

เราสามารถกระทำได้
 อย่างเช่น
ถ้าการทำผ้าป่าในการช่วยสร้างโรงเรียน
 สร้างโรงพยาบาล ช่วยเด็กกำพร้า 
หรือช่วยผู้สูงอายุ...หรืออื่นๆ

แต่หากทำบุญเกี่ยวข้องกับการสร้างโบสถ์ วิหาร วัดหรือสร้างพระพุทธรูป
เราไม่สามารถทำได้ 
เพราะจะขัดต่อความเชื่อของเรา
 เราเป็นคริสเตียนแล้วไม่ได้หมายความว่าเราต้องตัดความสัมพันธ์กับพี่น้องต่างความเชื่อ
การกระทำทุกอย่างอยู่ที่เจตนาของเรา

 พระเจ้าของเราเป็นองค์แห่งความรัก

พระองค์ทรงสอนให้เราทำดีและแสดงความรักต่อผู้อื่น 
....แต่ทุกอย่างที่เราทำ....
"เราควรถวายเกียรติให้แด่พระเจ้าด้วยเช่นกัน"
 การมีความเมตตาปราณี 
โดยให้ความช่วยเหลือผู้อื่นที่กำลังได้รับความทุกข์ยากและเดือดร้อน
เป็นสิ่งที่เราสมควรกระทำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตคริสเตียน 
มาระโก12:30-31 จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจ สุดความคิดและสุดกำลังของท่าน "จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง ไม่มีบทบัญญัติใดใหญ่กว่าสองข้อนี้

      เราควรระมัดระวังเกี่ยวกับคำพูดของเรา
 จะต้องไม่กระทบความรู้สึกต่อพี่น้องต่างศาสนาหรือต่างความเชื่อ
หากเราอธิบายให้เค้าฟังแล้ว  
เค้าจะได้รู้และเข้าใจในการดำเนินชีวิตของคริสเตียน 
 ความสัมพันธ์ของเรากับพี่น้องก็จะดีขึ้น
 ทัศนะคติของเค้าที่มีต่อคริสเตียนก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอีกด้วย 
หากเรามีโอกาสเราควรประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้าให้เพื่อนเราฟัง
เพื่อเค้าจะได้รับความรอดจากพระเจ้าด้วยเช่นกัน เอเมน

  
 


                                               

เขียนจดหมายถึงพระเจ้า


เคย มั้ย??? ที่ เรา ห่าง ใกล.... คุณพ่อคุณแม่ไปอยู่ที่อื่น 
 เราคงคิดถึงท่าน!!!มากเลยใช่มั้ย???
 อยากรู้ว่าท่านเป็นอย่างไรบ้าง!!!

ท่านสบายดีมั้ย?? ท่านจะคิดถึงเราหรือป่าว 
แน่นอนว่า!!! 
คุณพ่อคุณแม่...ท่านต้องรักและคิดถึงเรา..ไม่น้อยเลยเช่นกัน 
และท่านก็อยากรู้ว่าเรานั้นเป็นอย่างไรบ้าง
 เราจะอยู่อย่างไร กินอย่างไร มีทุกข์หรือสุขอย่างไรบ้าง
 เราก็จะเขียนจดหมายหาท่าน 
และเล่าเรื่องราวต่างๆให้ท่านฟัง 
เช่นกันค่ะ!!!! 
เมื่อเรามาเป็นลูกของพระเจ้าแล้ว 
 พระเจ้าก็รักเรา และคงคิดถึงเราไม่น้อยเหมือนกัน 



พระองค์คงอยากรู้...ว่าลูกของพระองค์แต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง
พระองค์อยากฟังทุกเรื่องราวของเรา
เราเคยเขียนจดหมายถึงพระองค์มั้ยคะ?? 
ถ้ายัง!!! เราลองมาเขียนจดหมายถึงพระองค์กันนะคะ

บอกให้พระองค์รู้ว่า
ตอนนี้เราเป็นอย่างไรบ้าง... เราสบายดีมั้ย 
เรามีความสุข หรือทุกข์อย่างไร??? 
เขียนถึงพระองค์ 
บอกให้พระองค์รู้...ถึงความเป็นอยู่ของเรา
สุขก็บอกพระองค์ ทุกข์ก็บอกพระองค์
 ยิ้มกับพระองค์ ร้องไห้กับพระองค์ หัวเราะกับพระองค์

หรือเราอยากได้อะไร อยากปรึกษาพระองค์เรื่องไหน
อยากได้อะไร...เป็นพิเศษ???
บอกพระองค์ได้ทุกเรื่องราว
 พระองค์รออ่านจดหมายของเราเสมอ!!! 

ในชีวิตของเรานั้น
อาจจะเจอความทุกข์ยาก วุ่นวาย สับสนอยู่บ้าง
 ขอให้เราอย่าท้อ!!!
                                                                                          
 เรายังมีพ่อ...ของเราอยู่บนสวรรค์ 
พ่อคนนี้พร้อมที่จะรับฟัง...และช่วยลูกของพระองค์เสมอ 
พระองค์คอยอยู่เคียงข้างเรา และพร้อมที่จะเช็ดน้ำตาทุกหยดของเรา
พ่อคนนี้คือพระเจ้า

 ให้เราเขียนจดหมายบอกถึงปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ 
พระองค์ทรงรออ่านจดหมายของเราอยู่เสมอ!!!อย่างใจจดใจจ่อ 
บางฉบับ!!!
พระองค์อาจจะตอบเร็ว

 แต่บางฉบับ!!!
พระองค์อาจจะตอบช้า
แต่พระองค์ทรงสัญญาว่า
พระองค์จะทรงตอบจดหมายของเราทุกฉบับแน่นอนค่ะ
มาเขียนจดหมายถึงพระเจ้ากันนะคะ  พระองค์ทรงรอเราอยู่ 
บอกพระองค์ว่า...
ลูกรักพระองค์และคิดถึงพระองค์เหลือเกิน!!!พระเจ้าค่ะ 
พระเยซู พระเจ้า พระบิดาของลูก
เก็บจดหมายทุกฉบับ!!!ที่เราเขียนถึงพระเจ้า 
แล้วรอนับพระพรของพระองค์กันนะคะ
 
ปล.อย่าลืมบอกพระองค์ว่า ตอบจดหมายของลูกเร็วๆด้วยนะคะ
                 ลูกคนนี้รอพระองค์อยู่ เอเมน สรรเสริญพระเจ้า 



พระเจ้าช่วยเราได้จริงหรือ???



ในช่วงเวลานี้คงปฎิเสธไม่ได้ว่า.......
มีคนเป็นจำนวนไม่น้อยที่ประสพกับปัญหาชีวิต หาทางออกไม่เจอรู้สึกว่ามืดมนไปหมด
 บางท่านก็จะสงสัยว่า พระเจ้ามีจริงเหรอ?????
 ทำไมพระเจ้าถึงไม่ช่วยเราเลย
 ไหนบอกว่าจะช่วย ทำไมถึงทิ้งเรา

 ทำไมๆๆๆๆ!!!!!!
คำถามเยอะแยะเต็มไปหมด
คงจะมีคำถามมากมาย!!!!ในใจ ทั้งผู้เชื่อใหม่และผู้เชื่อเก่า
ว่า...เพราะเหตุใด??เมื่อเป็นคริสเตียนแล้วยังไม่เห็นดีขึ้นเลย?


       เป็นคำถาม ที่มักจะปรากฏ อยู่ในความคิด 
ของผู้ที่หลังจาก ได้ตัดสินใจ ต้อนรับพระเยซูคริสต์ เป็นพระผู้ช่วยให้รอด
 และเริ่มต้นดำเนินชีวิต คริสเตียน มาได้ซักระยะหนึ่ง
พอเจอปัญหา อธิษฐานแล้ว ไม่ได้รับคำตอบ 
 สิ่งนี้อาจจะมีผลต่อ การดำเนินชีวิตคริสเตียน ของเขาทั้งชีวิต

 "หลายคน เลิกติดตาม พระเยซูคริสต์ 
และมีชีวิตที่ห่างเหินไปจากทางของพระเจ้า ด้วยความอ่อนแอฝ่ายวิญญาณ
 ยอมกลับไปทำตามเนื้อหนัง แต่ไม่ยอมทำตามการทรงนำของพระเจ้า
พอเจอความทุกข์ยากในชีวิต
ก็รู้สึกว่าพระเจ้าไม่รักไม่ทรงช่วยเลย
 ทำให้การดำเนินชีวิตคริสเตียนของเขา มีปัญหา
 และยิ่งไปคุยกับผู้ที่มีความเชื่อน้อยหรือผู้ที่ไม่มีความเชื่อเลย

ทำให้เขายิ่งมายิ่งห่างจากทางของ พระเจ้า"ในที่สุดจึงทิ้งทางพระเจ้าไป!!!!



อยากบอกอย่างนี้ว่า 
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราตาม ขอให้เราย้อนกลับมานั่งนับพระพร
 ดูทีละอัน ว่ามีมากแค่ไหน 

ถามตัวเองว่า!!!! เรายอมให้พระเจ้าอยู่ในทุกสถานการณ์ในชีวิต รึเปล่า
 ทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะดีหรือร้าย
ล้วนแล้วแต่เป็นบททดสอบตัวเราทั้งนั้น
ว่าเรามีความรักมั่นคงในพระเจ้ามากน้อยเพียงใด

บางคนพระเจ้าประทานสิ่งดีๆมาให้ก็ชื่นชม!!!อยู่กับของประทานจนลืมพระเจ้า
หรือ...บางคนเจอแต่การทดลองและความย่ำแย่เขาก็ละทิ้งพระเจ้าเช่นกัน

 อยากจะบอกว่าคนเหล่านั้นว่าเขายังไม่เชื่อและวางใจในพระเจ้าสุดจิตใจ
คิดว่าตัวเองแล้วทำดีที่สุดแล้วพระคัมภีร์ก็อ่านแล้วอธิษฐานก็แล้ว

พี่น้องคะ...เวลานี้คงเป็นบททดสอบชีวิตของเราอยู่
ขอให้สู้และฝ่าฟันอุปสรรคโดยพึ่งพาพระคุณพระเจ้า
อย่าละทิ้งพระองค์



 จงมองที่พระเจ้าอย่ามองที่ปัญหา 
ให้เราแบกกางเขนและเดินติดตามพระองค์
 ยอมจำนนท์กับพระองค์ ด้วยสิ้นสุดจิตและสุดใจเรา

มองดูว่าพระเจ้ากำลังสอนอะไรเรากับปัญหาที่พระองค์ยอมให้เกิดขึ้น
 แน่นอน...เมื่อเราผ่านปัญหาต่างๆไปได้ 
พระพรของพระองค์ก็จะเกิดผลมากมายในชีวิตของเรา

 เช่นฟ้าหลังฝน
ทางที่ไปหาพระองค์นั้นแคบและลำบากมากนัก
 แต่ถ้าเราข้ามและผ่านไปได้
 เราจะแกร่งและถวายเกียรติแด่พระองค์
 พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งเราเลย
ลองคิดและไตร่ตรองดูเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา
ทำความเข้าใจให้ได้ และเราจะเข้าใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
พระเจ้ามาทันเวลาเสมอ......

           พระคำของพระเจ้าบอกกับเราว่า 
“พระเจ้าประเสริฐทรงเป็นที่กำบังเข้มแข็งในวันยากลำบาก พระองค์ทรงรู้จักผู้ที่เข้ามาลี้ภัยอยู่ในพระองค์” และ “พระเจ้าทรงสถิตใกล้ทุกคนที่ร้องทูลพระองค์ ผู้ที่ร้องทูลพระองค์ด้วยใจจริง พระองค์ทรงโปรดตามความปรารถนาของบรรดาผู้ที่ยำเกรงพระองค์
 พระองค์ทรงฟังเสียงร้องทูลของเขาด้วย และทรงช่วยเขาให้รอด”

พระองค์ทรงรักลูกของพระองค์ทุกคน
เพียงแต่ให้เราวางใจและเชื่อในพระองค์ว่าพระองค์จะทรงจะช่วยเรา
พระองค์จะประทานทุกสิ่งที่เห็นว่าดีและเหมาะสมให้เราเสมอ
ไม่มีใครในโลกนี้จะไม่เจอปัญหา ขอให้อย่าท้อ

สุขก็ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ประทานความสุขให้กับเรา
 ทุกข์ก็ขอบคุณพระเจ้า
 เพราะพระองค์กำลังสอนเราให้รู้ว่าทุกข์นั้นเป็นอย่างไร
อย่าน้อยใจและต่อว่าพระเจ้า  อธิษฐานให้มากๆและวางใจในพระองค์
 พระเจ้าไม่เคยมาสาย

" ไม่มีการทดลองใดๆ เกิดขึ้นกับท่านนอกเหนือจากการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ทั้งหลาย 
พระเจ้าทรงสัตย์ธรรม พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะรับได้
 และเมื่อทรงทดลองท่านนั้น พระองค์จะทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ด้วย 
เพื่อท่านจะมีกำลังทนได้ "...1คร10.13


หากเหนื่อยและท้อแท้อยากหนุนใจด้วยเพลงนี้นะคะ 
ขอให้พระเจ้าเสริมกำลังทุกท่านค่ะ


เราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง 
เวลาที่เราทุกข์ยาก เวลาเราสับสนพระเจ้าอยู่เคียงข้างเราเสมอ
ความลำบากที่เราฟันฝ่าผ่านมาได้ แท้จริงแล้วพระเจ้าเป็นผู้นำพาเราให้ผ่านพ้นมา 
"รอยเท้าที่เราเห็นแท้จริงแล้ว เป็นรอยเท้าของพระเยซูที่อุ้มเราไว้" พระองค์ไม่เคยทิ้งเรา!!

มัทธิว13.18 "เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงฟังคำอุปมาว่าด้วยผู้หว่านพืชนั้น

19 เมื่อผู้ใดได้ยินคำบอกเล่าเรื่องแผ่นดินพระเจ้าแต่ไม่เข้าใจ มารร้ายก็มาฉวยเอาพืชซึ่งหว่านในใจเขานั้นไปเสีย นั่นแหละได้แก่เมล็ดพืชซึ่งหว่านตกริมหนทาง

20 และเมล็ดพืชซึ่งหว่านตกในที่ดินซึ่งมีพื้นหินนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ยินพระวจนะ แล้วก็รับทันทีด้วยความปรีดี

21 แต่ไม่ฝังลึกในตัวจึงทนอยู่ชั่วคราว และเมื่อเกิดการยากลำบาก หรือการข่มเหงต่างๆ เพราะพระวจนะนั้น เขาก็เลิกเสียในทันทีทันใด

22 และพืชซึ่งหว่านกลางหนามนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ฟังพระวจนะ แล้วความกังวลตามธรรมดาโลก และความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติรัดพระวจนะนั้นเสีย จึงไม่เกิดผล

23 ส่วนพืชซึ่งหว่านตกในดินดีนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ยินพระวจนะนั้นและเข้าใจ คนนั้นก็เกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง"

ความเชื่อจะทำให้เราก้าวข้ามผ่านทุกปัญหาได้นะคะ 
พระเจ้ารักพวกเราทุกคนและทรงเดินเคียงข้างพวกเราเสมอค่ะ






 "ไฟแห่งพระวิญญาณช่วยท่านให้พ้นจากคำสาปแช่งและโซ่ตรวนแห่งความทุกข์"
และได้รับความรอดอย่างแท้จริง 
"เชิญรับไฟพระวิญญาณ"
ได้ที่
คริสตจักรแห่งชัยชนะ เขาวง จ.กาฬสินธุ์


นมัสการทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป






ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องที่รักทุกท่านค่ะ

  ด้วยรัก
อ.อัญฐิตา บริบูรณ์กิตติคุณ

***โทร 081-157-0740**
cr.เพลงรอยเท้าบนผืนทราย watpaharuthaikhlung
หากท่านอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์ต่อผู้อื่นกรุณากดแชร์ด้วยนะคะ ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ